Research

ไม่ใช่แค่จาน แต่คือภาชนะอาหารใส่ใจ ยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อความสุขของผู้สูงอายุ

สังคมไทยได้ก้าวสู่การเป็น “สังคมผู้สูงอายุ”แล้ว ส่งผลให้นักวิชาการ และนักวิจัย ได้คิดค้นนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับ ดร.มยุรี เรืองสมบัติ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ราชมงคลพระนคร) ได้ทำวิจัยเรื่อง การศึกษาพฤติกรรมการบริโภคอาหารและความต้องการภาชนะใส่อาหารของผู้บริโภคสูงอายุไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เจ้าของงานวิจัย เล่าต่ออีกว่า ได้ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กันระหว่างปัจจัยลักษณะส่วนบุคคล ปัจจัยพฤติกรรมการบริโภค ความต้องการเลือกใช้ รูปแบบภาชนะใส่อาหาร เพื่อเตรียมการด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและประชากรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นภาคที่มีประชากรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยได้เลือกศึกษากลุ่มประชากรของจังหวัดนครราชสีมา ที่มีความหนาแน่นของผู้สูงอายุเป็นอันดับ 2 ใน 32 อำเภอ และคัดเลือกจากเขตที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอพิมายและอำเภอด่านขุนทด พร้อมทั้งอนุญาตให้ผู้วิจัยลงพื้นที่เก็บข้อมูลได้ สามารถทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเองได้เพื่อพัฒนารูปแบบภาชนะใส่อาหารสำหรับผู้สูงอายุ อันเป็นการดูแลและส่งเสริมความสามารถในการรับประทานอาหารด้วยตนเองในชีวิตประจำวันให้มีความสุขต่อการใช้งาน รู้สึกมีคุณค่าในตนเอง และยังลดช่องว่างระหว่างวัยอีกด้วย

สำหรับการลงพื้นที่เพื่อการวิจัยนั้น อาจารย์มยุรี เรืองสมบัติ ได้ศึกษาพฤติกรรมการบริโภคอาหารและความต้องการเลือกใช้ภาชนะใส่อาหารผู้บริโภคสูงอายุในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย พบว่า ผู้สูงอายุของจังหวัดนครราชสีมา นิยมรับประทานอาหารกับพื้นมากกว่านั่งรับประทานอาหารบนเก้าอี้ โดยนิยมนั่งรับประทานอาหารในรูปแบบล้อมกันเป็นวงกลมกับสมาชิกในครอบครัว สำหรับอาหารที่รับประทานจะเป็นประเภทต้ม นึ่ง ประเภทเนื้อปลา และน้ำพริกกับผักที่ปลูกเองในครอบครัว ที่สำคัญคือ นิยมรับประทานข้าวเหนียวเป็นหลัก ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นการรับประทานข้าวสวยแทนข้าวเหนียว เนื่องจากข้าวเหนียวย่อยยากและมีน้ำตาลสูง มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้สูงอายุดังกล่าวใช้ช้อนกลาง หรือช้อนสั้น และใช้มือในการรับประทานอาหาร แต่ไม่ใช้ส้อมในการรับประทานอาหาร ส่วนสถานที่รับประทานหารคือ บริเวณห้องโถงหน้าโทรทัศน์ อย่างไรก็ตาม ในบางครอบครัวมีผู้สูงอายุนั่งรับประทานอาหารบนเก้าอี้ เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพเกี่ยวกับข้อเข่า เกิดอาการปวดเข่า จึงไม่สามารถนั่งกับพื้นได้”

อาจารย์มยุรี เรืองสมบัติ เล่าถึงที่มาของงานวิจัยครั้งนี้ว่า ภาชนะใส่อาหารทำหน้าที่รองรับอาหาร เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายต่อการจัดเตรียมและการจัดเก็บอาหาร อย่างไรก็ตาม ภาชนะทั่วไปยังมิได้ออกแบบให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ตนจึงตั้งใจศึกษาและหาความสัมพันธ์ต่อปัจจัยด้านลักษณะส่วนบุคคล ปัจจัยด้านพฤติกรรมการบริโภคอาหารและความต้องการเลือกใช้ภาชนะใส่อาหารของผู้บริโภคสูงอายุไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อวิเคราะห์รูปแบบและออกแบบภาชนะใส่อาหารของผู้บริโภคสูงอายุไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากปัจจัยสำคัญ 3 ด้าน ด้านแรกคือ ด้านกายภาพ การออกแรง การเคลื่อนไหวและความคล่องแคล่วของมือและนิ้วมือ ด้านที่สองคือ ด้านหน้าที่ใช้สอยและความสะดวกสบาย การถือ การเคลื่อนย้าย การทำความสะอาด และความง่ายในการใช้งาน และด้านที่สามคือ รูปปแบบ ขนาด สีสัน ความปลอดภัย ความง่ายในการใช้งาน และความกลมกลืนกับภาชนะ อื่น ๆ

อาจารย์มยุรี  เรืองสมบัติ ได้บอกถึงผลการวิจัยนี้ด้วยว่า ภาชนะที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ควรมีลักษณะด้านกายภาพที่ตอบสนองต่อการใช้งานจริง โดยเฉพาะที่จับซึ่งสอดคล้องกับขนาดมือ และนิ้วมือ ช่วยเพิ่มความมั่นคง และความกระชับ วัสดุที่ผู้สูงอายุให้ความพึงพอใจมากที่สุดคือ เมลามีน สำหรับความพึงพอใจด้านการออกแบบพบว่า ผู้สูงอายุให้คะแนนสูงในสองด้าน ด้านแรกคือ ด้านหน้าที่ใช้สอย และความสะดวกสบาย ที่จับถือสะดวก น้ำหนักพอเหมาะ ลดการสัมผัสภาชนะโดยตรงเมื่อมีความร้อน รองรับการเกลี่ย และการตักได้ดี ใช้งานได้ทั้งมือซ้าย ขวา เคลื่อนย้าย ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนด้านที่สองคือ ด้านรูปแบบ ภาชนะใส่อาหารไม่ควรมีความเหลี่ยม หรือคม ควรโค้งมน สีที่ใช้ควรเป็นสีขาวเพราะให้ความรู้สึกน่ารับประทาน มากไปกว่านั้นภาชนะใส่อาหารไม่ควรมีความแตกต่างจากการใช้ชีวิตประจำวัน ควรมีฝารองก้นเพื่อง่ายต่อการนำพา และสามารถเป็นฝาปิดภาชนะใส่อาหารเวลาทานอาหารไม่หมดได้อีกด้วย ตัวช้อนไม่หนาจนเกินไปเพราะจะทำให้จับ ถือไม่ถนัด แก้วน้ำหูจับมีความโค้งเว้าเพื่อรับกับอุ้มมือ ฐานแก้วน้ำเพื่อช่วยในการวางที่มั่นคง สื่อสารหน้าที่ได้อย่างชัดเจน และมีความสวยงามชวนให้น่าใช้

 

“ดิฉันได้นำผลที่ได้จากงานวิจัยมาออกแบบภาชนะใส่อาหารสำหรับผู้สูงอายุคือ จาน ชาม ช้อน ส้อมและแก้วน้ำ ซึ่งเป็นภาชนะใส่อาหารที่ผู้สูงอายุมีความจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันทุกวัน ซึ่งมีหลักการออกแบบมุ่งเน้นรูปทรงที่เหมาะสม มีความสวยงาม วัสดุที่ใช้ต้องมีน้ำหนักอย่างเมลามีน ผิวสัมผัสรู้สึกสบายไม่สะดุดมือ ใช้สีโทนอ่อน สีขาว และสีครีม เพราะทำให้มองเห็นอาหารที่รับประทานได้ง่าย รู้สึกน่าทาน สบายตาที่สำคัญคือมีพื้นที่พิเศษสำหรับให้ผู้สูงอายุใช้มือจับได้สะดวก ซึ่งที่ผ่านมาผู้สูงอายุใช้ภาชนะใส่อาหารทั่วไป เช่น จาน ชาม ช้อน ส้อมและแก้วน้ำ จึงไม่มีพื้นที่สำหรับใช้มือจับภาชนะใส่อาหารได้ ดังนั้นเมื่อผู้สูงอายุใช้มือที่มีอาการสั่นๆ หยิบจับภาชนะใส่อาหาร อาจทำให้ภาชนะใส่อาหารตกพื้นได้ง่าย ขณะที่ส้อมที่ใช้สำหรับผู้สูงอายุถูกออกแบบพิเศษ โดยมีซี่ส้อมเพียง 3 ซี่ อย่างไรก็ตามได้ทดลองนำภาชนะที่ออกแบบดังกล่าวไปใช้กับกลุ่มผู้สูงอายุตัวอย่างในงานวิจัย ปรากฏว่า ภาชนะใส่อาหารที่ดิฉันได้ออกแบบเป็นพิเศษนั้น ถูกใจผู้สูงอายุอย่างมาก เนื่องจากสามารถใส่อาหารได้พอดีทั้งข้าวและกับข้าว สะดวกในการหยิบใช้” เจ้าของงานวิจัยเล่าอย่างภูมิใจ

“แม้ว่ากลุ่มผู้สูงอายุจะมีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค แต่ก็ต้องได้รับการดูแลจากสังคมเช่นเดียวกับประชากรกลุ่มอื่น สำหรับดิฉันผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่สังคมไทยต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นกลุ่มเจนเนอเรชั่นเบบี้บูมเมอร์ส หรือ Gen B ที่มีจำนวนมากเพิ่มที่สุดในประเทศไทย จึงต้องได้รับการดูแลและใส่ใจอย่างละเอียด โดยเฉพาะภาชนะสำหรับใส่อาหาร ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย หากผู้สูงอายุมีภาชนะใส่อาหาที่เหมาะสม ย่อมเป็นการส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ทั้งกายและใจ ส่งผลให้สังคมไทยเป็นสังคมสูงอายุที่มีความน่าอยู่มากยิ่งขึ้น สำหรับผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ ราชมงคลพระนคร โทร. 02 665 3888 ต่อ 5024”อาจารย์มยุรี  เรืองสมบัติ กล่าวทิ้งท้าย

สมพิศ  ไปเจอะ